การสูญเสียฟันแท้ส่งผลกระทบต่อทั้งความมั่นใจและการบดเคี้ยวอาหาร ซึ่ง “รากฟันเทียม” ถือเป็นนวัตกรรมที่ช่วยทดแทนฟันที่หายไปได้ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด อย่างไรก็ตาม หลายคนมักมีข้อสงสัยว่าการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเช่นนี้ สามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมช่วยแบ่งเบาภาระได้หรือไม่ บทความนี้จะสรุปความคืบหน้าล่าสุดของสิทธิ์ประกันสังคมในปี 2568 และแนวโน้มใหม่ที่จะเกิดขึ้นในปี 2569 เพื่อให้คุณวางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้อง
สรุปสิทธิ์ประกันสังคม: รากฟันเทียมเบิกได้ไหม?
สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 มีความเคลื่อนไหวสำคัญเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมที่ควรทราบดังนี้
สถานะปัจจุบัน (ปี 2568)
ในปัจจุบัน สิทธิ์ประกันสังคมแบบปกติยัง ไม่ครอบคลุม ค่าใช้จ่ายในการทำรากฟันเทียม ผู้ประกันตนจะต้องสำรองจ่ายค่ารักษาเต็มจำนวนด้วยตนเอง โดยสิทธิพื้นฐาน 900 บาทต่อปี จะใช้ได้เฉพาะการขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน และผ่าฟันคุดเท่านั้น
อัปเดตข่าวดีปี 2569
บอร์ดประกันสังคมมีมติเห็นชอบ (เมื่อเดือนกันยายน 2568) ให้ เพิ่มสิทธิ์การทำรากฟันเทียม เข้ามาเป็นสิทธิประโยชน์ใหม่ โดยคาดว่าจะเริ่มประกาศใช้ได้เร็วที่สุดในช่วงต้นปี 2569 ซึ่งสิทธิ์นี้มุ่งเน้นไปที่การฝังรากฟันเทียมเพื่อรองรับการใส่ฟันเทียมทั้งปากในผู้ที่สูญเสียฟันทั้งหมด
วงเงินและรายละเอียดการเบิกจ่าย (แนวทางใหม่ปี 2569)
ตามมติเบื้องต้น รายละเอียดวงเงินที่ผู้ประกันตนจะสามารถเบิกได้ในกรณีทำรากฟันเทียม (ตามเงื่อนไขที่กำหนด) มีดังนี้
- ค่าผ่าตัดฝังรากฟันเทียม: เบิกได้สูงสุด 17,500 บาท ต่อราย
- ค่าอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง: เบิกได้ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อปี
- ค่าติดตามผลการรักษา: เบิกได้ปีละ 700 บาท ต่อราย
นอกจากนี้ ยังมีการปรับเพิ่มวงเงินสำหรับการทำฟันเทียมชนิดถอดได้ (บางส่วนหรือทั้งปาก) เป็นสูงสุดไม่เกิน 6,000 บาท ซึ่งเดิมเบิกได้สูงสุดเพียง 4,400 บาท
ขั้นตอนการใช้สิทธิ์ทันตกรรมประกันสังคม
แม้ว่าระบบรากฟันเทียมแบบใหม่จะยังไม่เริ่มใช้อย่างเป็นทางการ แต่สำหรับสิทธิ์ทันตกรรมอื่นๆ และการเบิกฟันเทียมในปัจจุบัน คุณสามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอนดังนี้
1. การใช้สิทธิ์ 900 บาท (ขูด อุด ถอน ผ่า)
- ไม่ต้องสำรองจ่าย: หากเข้ารับบริการในสถานพยาบาลหรือคลินิกที่เข้าร่วมโครงการ (สังเกตสัญลักษณ์ “ทำฟันประกันสังคม 900 บาท ไม่ต้องสำรองจ่าย”)
- ใช้เพียงบัตรประชาชน: แสดงบัตรประชาชนเพื่อเช็กสิทธิ์และรับบริการได้ทันที
2. การใช้สิทธิ์กรณีต้องสำรองจ่าย (เช่น ฟันปลอม)
ในกรณีที่สิทธิ์ประกันสังคมระบุว่าต้องสำรองจ่าย (รวมถึงกรณีรากฟันเทียมในอนาคตที่อาจมีส่วนต่าง) ให้ปฏิบัติดังนี้:
- เตรียมเอกสาร: ใบรับรองแพทย์, ใบเสร็จรับเงินตัวจริง, และแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส. 2-16)
- ยื่นเรื่องเบิก: สามารถยื่นเอกสารได้ที่สำนักงานประกันสังคมทุกแห่งทั่วประเทศ หรือทำเรื่องผ่านระบบออนไลน์ภายใน 2 ปี นับจากวันที่เข้ารับบริการ
การเตรียมตัวก่อนทำรากฟันเทียม
ก่อนตัดสินใจทำรากฟันเทียม ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อประเมินสภาพกระดูกขากรรไกรและสุขภาพช่องปากโดยรวม เนื่องจากขั้นตอนการรักษาอาจใช้เวลา 3-6 เดือนเพื่อให้รากเทียมยึดติดกับกระดูกได้อย่างมั่นคง
หากคุณกำลังมองหาความเชี่ยวชาญในการทำรากฟันเทียมที่มั่นใจได้ Dental Image Clinic พร้อมดูแลคุณด้วยทีมทันตแพทย์เฉพาะทางและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามและใช้งานได้ยาวนาน ปรึกษาเราวันนี้เพื่อประเมินการใช้สิทธิ์และวางแผนการรักษาที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับคุณ
นัดหมาย หรือปรึกษาทันตแพทย์ฟรี

EN